การแบ่งฤดูกาลในประเทศอินเดียมีความแตกต่างจากการแบ่งฤดูกาลในประเทศไทย เนื่องจากลักษณะภูมิอากาศไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ ในประเทศอินเดียเองยังมีการแบ่งฤดูที่แตกต่างกันไปตามสภาพพื้นที่และลักษณะภูมิอากาศอีกด้วย
คัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา (บาลี) กล่าวถึงฤดูในประเทศอินเดียว่า มีการแบ่ง ๒ แบบ
แบบแรกเป็นการแบ่งฤดูตามลักษณะภูมิอากาศของประเทศอินเดียทางภาคตะวันออกและภาคใต้ คือ แบ่งออกเป็น ๓ ฤดู ฤดูละ ๔ เดือน ได้แก่ ๑. เหมนฺต (เหมันต์) = ฤดูหนาว ๒. คิมฺหาน (คิมหันต์) = ฤดูร้อน ๓. วสฺสาน (วัสสานะ) = ฤดูฝน
ส่วนแบบที่ ๒ เป็นการแบ่งฤดูตามลักษณะภูมิอากาศของประเทศอินเดียทางภาคเหนือ คือ แบ่งออกเป็น ๖ ฤดู ฤดูละ ๒ เดือน ได้แก่ ๑. เหมนฺต (เหมันต์) = ฤดูหนาว ๒. สิสิร (สิสิระ) = ฤดูหมอกหรือน้ำค้าง ๓. วสนฺต (วสันต์) = ฤดูใบไม้ผลิ ๔. คิมฺหาน (คิมหันต์) = ฤดูร้อน ๕. วสฺสาน (วัสสานะ) = ฤดูฝน ๖. สรท (สารท) = ฤดูใบไม้ร่วง
สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ในเขตร้อนนั้น พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถานได้อธิบายการแบ่งฤดูกาลในประเทศไทยไว้ว่า แบ่งตามลักษณะภูมิอากาศออกได้เป็น ๓ ฤดู ฤดูละประมาณ ๔ เดือน ได้แก่ ๑. ฤดูหนาว (กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน) ๒. ฤดูร้อน (กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม) ๓. ฤดูฝน (กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม)
จะเห็นได้ว่าการแบ่งฤดูกาลในประเทศไทยนั้นคล้ายคลึงกับการแบ่งฤดูกาลในประเทศอินเดียภาคตะวันออกและภาคใต้ซึ่งอยู่ในเขตมรสุม คือ มี ๓ ฤดู ดังนั้น หากจะนำคำเรียกชื่อฤดูในภาษาบาลีสันสกฤตมาเทียบใช้แทนคำเรียกชื่อฤดูในภาษาไทย ก็สามารถเทียบใช้ได้ดังนี้
เหมันต์ = ฤดูหนาว
คิมหันต์ = ฤดูร้อน
วัสสานะ = ฤดูฝน
คิมหันต์ = ฤดูร้อน
วัสสานะ = ฤดูฝน
ในช่วงระยะเวลาตอนนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน ฝนตกแทบทุกวัน ไม่ใช่สิ ฝนตกทุกวัน และบางวันก็ตกตลอดทั้งวัน ข้อเสียของฝนคือ ทำให้รถติด น้ำท่วมขัง ทำให้คนขี้เกียจไปโรงเรียน ไปทำงาน ถ้าเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง บางแห่งอาจมีลมกระโชกแรง ต้องเตือนให้ทุกคนระวังด้วยนะ แต่ข้อดีของฝนคือ ทำเกษตรกรคนไทย สามารถทำนา ทำการเกษตรอื่นๆได้เช่น ปลูกผัก ทำสวนผลไม้ ทำให้เกษตรคนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น เลี้ยงชีวิตและครอบครัวได้
เบญจมาศ ทองบุตร
ที่มา : จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๕๖ มกราคม ๒๕๓๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น